สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “สงกรานต์ในยุคโควิด -19" โดยกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,324 คน สำรวจวันที่ 3-9 เมษายน 2564 พบว่าในปีนี้ที่มีโควิด -19 ระบาดประชาชนจะไม่เข้าร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ร้อยละ 43.88
ซึ่งกิจกรรมที่นิยมทำก่อนมีโควิด -19 คือกลับภูมิลำเนาร้อยละ 76.52 และสิ่งที่ยึดถือปฏิบัติแม้จะมีโควิด -19 คือการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในครอบครัวร้อยละ 64.82
สำหรับค่าใช้จ่ายในช่วงสงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 4,183 บาทและในช่วงที่มีโควิด -19 ระบาดประชาชนก็ยังให้ความสำคัญกับเทศกาลสงกรานต์เหมือนเดิมร้อยละ 57.63 ถึงแม้จะมีโควิด -19 แต่วันสงกรานต์ยังเป็นเทศกาลที่ประชาชนให้ความสำคัญและใช้เวลากับครอบครัว คือการสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นวัฒนธรรมประเพณีไทยที่ยึดถือปฏิบัติกันมายาวนาน
โดยในปีนี้ถึงแม้มีวันหยุดหลายวัน แต่ประชาชนก็คาดการณ์ว่าจะใช้จ่ายไม่มากนักเพราะยังอยู่ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำและยังมีความไม่แน่นอนจากสภาวการณ์โควิด -19 ดังนั้นภาครัฐจึงควรเร่งบริหารงานด้านสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพื่อให้ประชาชนมั่นใจกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
"นางสาวพรพรรณ บัวทอง" นักวิจัยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยว่า เทศกาลสงกรานต์ในปี 2564 นี้คนไทยก็ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด -19 อยู่เพราะตัวเลขของผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยภาพรวมของเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ประชาชนยังคงเดินทางกลับภูมิลำเนาเนื่องจากปีที่แล้วถูกงดและรัฐบาลไม่ได้ประกาศ Lock Down ซึ่งอาจช่วยให้เศรษฐกิจในช่วงเทศกาลนี้หมุนเวียนขึ้นมาบ้าง
ในส่วนของการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ยังคงมีการทำบุญที่วัดสรงน้ำพระแต่ละวัดต้องมีมาตรการโควิต -19 อย่างเข้มงวดเว้นระยะห่างล้างมือและอีกหลาย ๆ มาตรการการสืบทอดและฉายภาพของวัฒนธรรมไทยมีการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ทำบุญที่วัดใกล้บ้านการจัดนิทรรศการประเพณีสงกรานต์และหน่วยงานภาคเอกชน เช่น ห้างสรรพสินค้าได้มีการจัดกิจกรรมที่จะฉายภาพประเพณีของแต่ละท้องถิ่นให้คนเข้าชมและที่สำคัญประชาชนนิยมใช้สื่อออนไลน์มากขึ้นในการรดน้ำอวยพร ทั้งทางไลน์เฟซบุ๊กวันหยุดยาวนี้
จึงเชื่อได้ว่าจะนำพาความสุขและกลิ่นอายของความสดชื่นจากเทศกาลสงกรานต์อย่างแน่นอน
Copyright