ข่าวบันเทิง 2021-04-20 21:33:13 971

วันก่อนสาว "เมเปิ้ล พัชชุดาญ์" ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว แต่ดูเหมือนมีบางเรื่อง ที่พี่สาวอย่าง "แคทรียา อิงลิช" หุ้นส่วนร้านเล็บเจ้าปัญหา จะไม่เข้าใจ 


เจ้าตัวจึงได้ใช้พื้นที่ส่วนตัว ชี้แจงบนอินสตาแกรมส่วนตัวว่า...

"เมเปิ้ลขอใช้พื้นที่ส่วนตัวในการอธิบายข่าวที่ออกมานะคะ .... 

วันก่อนเมเปิ้ลให้สัมภาษณ์ไปแล้วตามที่เมเปิ้ลได้พูดไปทั้งหมดวันนี้ขอย้ำนะคะว่า ... ข่าวที่ออกมาว่าเมเปิ้ลโกงเงินเรื่องนั้นไม่เป็นความจริงเลย !!! แล้วก็ชัดเจนและบริสุทธิ์ใจโปร่งใสมาตลอดในทุกๆเรื่องรวมถึงเรื่องเอกสารหลักฐานทั้งหมดได้โชว์และให้ทนายทั้ง 2 ฝ่ายรวมถึงตัวเมเปิ้ลเองและพี่เค้าดูแล้วในวันที่มีการนัดประชุมกันตอนนี้ก็รอทนายทั้ง 2 ฝ่ายตรวจเอกสารและยินดีพร้อมที่จะแถลงข่าวพร้อมกันค่ะในสิ่งที่ทุกๆคนที่ได้ยินได้เห็นข่าวอย่าเพิ่งตัดสินว่าใครผิดถูกถ้าไม่รู้ความจริงอย่าตัดสินคนอื่นเพราะฟังความข้างเดียว "นางร้ายก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ร้ายเสมอไป" ที่ต้องออกมาพูดมาเขียนเพราะอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจและปกป้องชื่อเสียงของตัวเองในคำครหาหรือข่าวต่างๆที่ออกมามันทำให้เราเสียหายเป็นอย่างมากรวมถึงทั้งครอบครัวเราด้วยอีกอย่างเราก็ยังเป็นคนของสังคมยังต้องมาหากินถ้ามีข่าวเสียหายทางด้านนี้ใครจะอยากทำธุรกิจด้วยใครอยากจะเป็นเพื่อนกับเราอีก !!! เงิน 4 ล้านหายไปไหน ?? เลื่อนดูค่ะ"

โดยในภาพคำชี้แจงนั้น มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

"เงิน 4 ล้านหายไปไหน ??? ตามนี้เลยค่ะ

"หนิง อารีวรรณ มีกำปัง" ทนายของเมเปิ้ลเปิดใจค่อนข้างละเอียดดังนี้ "เริ่มแรกคุณเปิ้ลทำธุรกิจทำเล็บทำสปาเล็ก ๆ อยู่ก่อนแล้วแบบส่วนตัวไม่จดทะเบียน บริษัท ลงทุนไป 2,000,000 ส่วนคุณแคทเข้ามาเป็นลูกค้าสนใจธุรกิจขอเข้ามาร่วมหุ้นด้วยตอนแรกเปิ้ลยังไม่ตกลง แต่เพราะเห็นคุณแคทต้องการทำธุรกิจจริงๆจึงให้เข้ามาลงทุนกันครั้งแรก 1,000,000 บาทหลังจากนั้นขยายกิจการมาเช่าย่านอาร์ซีเอ RCA จึงมีการจดทะเบียน บริษัท ขึ้นทั้งสองคนลงชื่อก่อตั้ง บริษัท ด้วยกันโดยมีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาทคุณแคทลงชื่อด้วยตนเองรับทราบทุนจดทะเบียนมา แต่แรกประเด็นเรื่องไม่รู้การจดทะเบียน บริษัท ขัดแย้งกับเอกสารการจดทะเบียนของกระทรวงพาณิชย์

2. การเช่าสถานที่ใหม่ต้องปรับปรุงสถานที่ทั้งสองฝ่ายลงทุนเพิ่มทั้งอุปกรณ์และจ้างพนักงานตกแต่งร้านคุณแคทจ้างผู้รับเหมามาเองซึ่งทราบว่ามีการเสียค่าใช้จ่ายไปหลายล้านบาทรวม ๆ กันก็คนละประมาณ 4 ล้านเงินตอนแรกบริหารร่วมกันมีการลงชื่อร่วมกันซื้ออุปกรณ์ต่างๆคุณแคททราบอยู่แล้วตลอดจนค่าจ้างพนักงาน 

3. เรื่องโกงคงไม่ใช่เพราะหลังจากมีสถานการณ์โควิดร้านถูกปิดลูกค้าไม่กล้าใช้บริการเปิ้ลแบกภาระคนเดียวจนกระทั่งถูกพนักงานฟ้องเป็นคดีแรงงานไม่มีรายได้ แต่แบกค่าเช่าค่าพนักงานตลอด 1 ปีลำพัง

4. คุณแคทไม่มาร้านอีกเลยจนกระทั่งขอปิดกิจการเพราะไม่ไหวคุณแคทเสนอขายหุ้น 2 ล้าน แต่ทางเรารับไม่ได้เพราะไม่มีเงินแล้วจึงขอปิด บริษัท มีการเชิญประชุมก่อนคุณแคทออกข่าวมีมติเลิก บริษัท แล้ว

5. เมื่อต้องปิดมีการขายทรัพย์สินและนำมาใช้หนี้ตลอดจนค่าแรงพนักงานที่ฟ้องที่ศาลแรงงานปัจจุบันเปิ้ลเคลียร์หนี้หมดแล้ว" 

6. สุดท้ายคุณแคทคุณเปิ้ลทนายเจมส์และทนายหนิงเข้าประชุมร่วมกันสรุปบัญชีภาระหนี้สินเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วคุณแคทเข้าใจดีถึงธุรกิจที่มันเจ๋งจากภาวะเศรษฐกิจและโรคระบาดโควิดปัจจุบันเรื่อง บริษัท ใกล้เรียบร้อยแล้วเหลือเพียงแค่ให้สำนักงานบัญชีทำเอกสารชำระบัญชีให้เสร็จและยื่นจดเลิก บริษัท ที่กระทรวงพาณิชย์ทั้งสองฝ่ายยังคงคุยกันได้ปกติค่ะ 

สุดท้ายถามว่าเงิน 4 ล้านฝั่งโน้นหายไปไหนแล้วไม่ถามบ้างหรือคะว่าทางนี้เงินหายไปไหนมากว่าถึง 6 ล้านส่วนต่างใครเป็นคนรับผิดชอบไม่ใช่เมเปิ้ลหรอค่ะ !!!"


รูปภาพเพิ่มเติม