เวลาคือความหรูหราที่มีคุณค่าสําหรับชีวิตยุคใหม่ นี่ไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่น่าปรารถนาในชีวิตประจําวันที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งมีสีสัน และวุ่นวาย ในยุคศตวรรษที่ 21 นี้ ลีเดวิจ อิเดลคูร์ท (Li Edelkoort) นักวิเคราะห์เทรนด์ชื่อดังตระหนักถึงความต้องการที่แสวงหาความเงียบสงบและความปลอดโปร่ง ความแน่แท้ และความหมายในสังคมยุคใหม่ เธอได้สร้างสรรค์นาฬิการ่วมกับ Rado เพื่อสะท้อนถึงความตั้งใจครั้งนี้
Rado True Thinline Stillness เชิญชวนให้ใช้เวลาอย่างตั้งใจในทุกๆช่วงเวลาชีวิตในยุคสมัยนี้ Li Edelkoort เป็นหนึ่งในนักวิเคราะห์เทรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนี้ การวิเคราะห์ที่แม่นยําของเธอไม่เพียงแต่นําเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์ ในปัจจุบันเท่านั้นแต่ยังรวมถึงวิสัยทัศน์ของสังคมในอนาคตอีกด้วย ปัจจุบันเธอเห็นความสำคัญที่มากขึ้นในเรื่องการชะลอความเร็วของเวลา:
“ผู้คนต่างใช้เวลาตั้งคําถามเกี่ยวกับความหมายของชีวิตและการทํางาน เพื่อได้คิดเกี่ยวกับการถอนตัวออกและความเรียบง่ายรวมทั้งความธรรมดาสามัญและความซับซ้อน” Li Edelkoort กล่าว
นี่เป็นอะไรที่มากกว่าการหยุดพัก“ในที่สุดแล้วผู้คนก็พร้อมที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมและหลุดพ้นจากวงจรเสพติดการช้อปปิ้ง”นักวิเคราะห์เทรนด์กล่าว“อุตสาหกรรมจะตอบสนองต่อสิ่งนี้โดยการลดสัดส่วนการออกแบบและผลิตผลิตภัณฑ์ให้มีอายุยาวนาน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดทําสิ่งที่สวยงาม แต่ตรงกันข้าม เราจะมุ่งเน้นไปที่ การออกแบบที่น้อยแต่มาก ลดลงแต่พิเศษขึ้น ยั่งยืนและใช้งานง่ายขึ้นมาแทน” Rado เป็นผู้บุกเบิกในด้านนี้ เป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุ” ที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับอนาคต การใช้งานวัสดุที่ทนทานและป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างดีเยี่ยม และมุ่งเน้นไปที่ รูปทรงที่ชัดเจน เพรียวบาง และสัมผัสที่เย้ายวน
คู่หูใหม่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน Rado ได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับนักวิจัยเทรนด์ชาวดัตช์เป็นเวลาหลายปี และนี่เป็นครั้งแรกที่ Li Edelkoort นําเสนอนาฬิกาภายใต้ชื่อของเธอร่วมกับ RADO ด้วยรูปทรงที่ลื่นไหลของ True Thinline ที่เรียบแบนพิเศษ สร้างแรงบันดาลใจ โดยผสานรวมสองนวัตกรรมที่โดดเด่นที่สุดของเราเข้าด้วยกันทั้งไฮเทคเซรามิกที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและนวัตกรรมโครงสร้างแบบชิ้นเดียว พร้อมทั้งเปิดตัวบรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ของ Rado ซึ่งมาจากแนวคิดการใช้วัสดุรีไซเคิลที่ชิ้นส่วนตรงกลางคือกล่องคุณภาพสูงขนาดเล็กที่ทําจากพลาสติกรีไซเคิลและสามารถนําใช้เป็นกล่องนาฬิกาแบบพกพาสําหรับเดินทางได้ ซึ่งจะมีที่ใส่บัตรที่ทําจากกระดาษแข็งสีดํา คู่มือการใช้งานแบบพิมพ์จะไม่ได้นำมาใช้อีกต่อไป และหันมาใช้รหัส QR แทน
โดยรวมแล้วนาฬิการุ่นใหม่นี้เป็นการสร้างแนวคิดที่ทันสมัยเกี่ยวกับปรัชญาการออกแบบ “น้อยแต่มาก (less is more)” ตัวเรือนไฮเทคเซรามิกสีขาวนวล ที่มีความบาง 5 mm และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 mm มีการประดับด้วยไทเทเนียมที่ด้านหลังพร้อมกับคริสตัลแซฟไฟร์ และสลักคําว่า “STILLNESS Lidewij Edelkoort SINCE 2020” หน้าปัดสีขาวที่นําเสนอภายใต้คริสตัลแซฟไฟร์ที่มีเอฟเฟกต์น้ำค้างแข็ง เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีเป็นสีขาวเช่นกัน สายนาฬิกาไฮเทคเซรามิกและโลโก้ Rado ที่โปร่งใสมีสีที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ซึ่งช่วยเติมเต็มรูปลักษณ์แบบสีโทนเดียวของนาฬิกาควอตซ์แบบร่วมสมัยที่ผลิตจากสวิส การดูเวลาจะกลายเป็นช่วงเวลาที่มีการไตร่ตรองอย่างพิถีพิถันด้วย Rado True Thinline Stillness “การรับรู้ว่าเวลาอยู่ในมือเราในขณะเดียวกันที่ลืมเวลาไปพร้อมๆกัน” คือแนวคิดที่ Li Edelkoort ได้อธิบายไว้ “ปลดปล่อยตัวเราเองจากชีวิตประจําวันที่ เร่งรีบและวุ่นวายด้วยการตระหนักรู้เกี่ยวกับเวลาหนึ่งวินาที และรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของเวลาหนึ่งนาที รวมทั้งเข้าใจถึงความเอาใจใส่เวลาในหนึ่งชั่วโมง” นาฬิการุ่นใหม่นี้จะทําให้เรามีสิ่งใหม่ๆ ที่สามารถเพลิดเพลินได้ในทุกๆ วัน เป็นช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบและมีความหมายในชีวิต
Rado True Thinline Stillness
กลไกการเดิน: Rado คาลิเบอร์ 420, ผลิตจากสวิส, ควอตซ์, 2 เข็ม
ตัวเรือน: ตัวเรือนทําจากไฮเทคเซรามิกสีขาวอบอุ่นแบบผิวเงา โครงสร้างแบบเป็นชิ้นเดียว
เม็ดมะยม: ไฮเทคเซรามิกสีขาวเงา
คริสตัลแซฟไฟร์แบบโค้งพร้อมเอฟเฟกต์น้ำค้างแข็ง และโลโก้ Rado แบบโปร่งใส
ด้านหลังตัวเรือนเป็นไทเทเนียม คริสตัลแซฟไฟร์ มีการสลักคําว่า: STILLNESS SINCE 2020 Lidewij Edelkoort
กันนํ้าได้ถึง 3 บาร์ (30 m)
หน้าปัด: สีขาว
เข็ม: สีขาว
สายนาฬิกา: ไฮเทคเซรามิกสีขาวผิวเงา
บานพับล๊อคแบบพับ 3 ทบทําจากไทเทเนียม
ขนาด 39.0 x 43.3 x 5.0 (W x L x H ในหน่วย mm)
Copyright