อีกหนึ่งละครน้ำดีที่ตอนนี้กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก
สำหรับละครผัวๆเมียๆเสียดสีสถาบันครอบครัว “บังเกิดเกล้า”
ออกอากาศทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 ผลิตโดย เช้นจ์2561
ที่นำเสนอละครมากกว่าความบันเทิง สอดแทรกไปด้วยคติสอนใจการใช้ชีวิตครอบครัว
นำแสดงโดยสุดยอดนักแสดง “หนุ่ม-ศรราม” และ “ป๊อก-ปิยธิดา” ตัวเอกของสองสามีภรรยา
ที่เดินทางผิดบนเส้นทางชีวิตคู่ จนเต็มไปด้วยอุปสรรคและขวากหนาม
ท่ามกลางการปลูกฝังเลี้ยงดูที่ผิดของพ่อแม่บังเกิดเกล้า
จนนำทางให้ชีวิตของตัวละครต้องเจอจุดจบที่ยากจะแก้ไข้
งานนี้อีกหนึ่งพระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย “พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต”
พร้อมให้ความคิดเห็นและเสนอแนะ บทเรียนจากละครสู่ชีวิตจริง
ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ยกให้ละคร “บังเกิดเกล้า”
เป็นอีกหนึ่งละครในดวงใจที่อัดแน่นไปด้วยบทเรียนแห่งชีวิต
ทราบมาว่าท่านก็เป็นอีกหนึ่งในแฟนละคร
“บังเกิดเกล้า” มีโอกาสได้ชมละครเรื่องนี้?
พระมหาสมปอง :
“เจริญพรนะโยม โควิดอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
มีโอกาสได้ดูตอนกลับบ้านไปหาโยมแม่และพี่สาว พี่สาวก็บอกว่าดูละครบังเกิดเกล้า
ตอนแรกก็งงนะ ชื่อดูยุคเก่ามาก แต่พอเปิดไปดูปุ๊บเห็นพี่หนุ่มศรราม เราก็รู้จักเห็นมาตั้งแต่เหินฟ้าอะไรแล้วนะ
เจอคุณป๊อกปิยธิดา เจอคุณเอี๊ยงอีก คุณไอซ์ หลังๆเองแต่ละช่องเนี้ยก็จะรีรันเยอะ
ละครจะดีแค่ไหนแต่ถ้ารีรันก็ไม่รู้ว่าจะดูเพื่ออะไร ก็ดูข่าวดูอะไรรอไป
จนมาถึงละครเรื่องนี้ สนุก ความรู้สึกแรกเลยคือสนุก
คนเราจะดูละครอย่างแรกเลยมันต้องสนุกก่อนเลย
ไม่ต้องคิดเยอะมากอะไรแบบนี้ พอสนุกปุ๊บข้อดีเรื่องนี้มันได้ข้อคิดด้วย
เรื่องพ่อ เรื่องแม่เรื่องลูก เรื่องหลาน เรื่องพ่อแม่รังแกฉัน
วันนั้นมีโอกาสเจอโยมหนุ่มศรราม ยังแซวเลย ดูบังเกิดเกล้าอยู่นะโยมพี่ (หัวเราะ)
ชั่วได้ใจ ก็มีโอกาสได้ดูละครเรื่องนี้ ก็สนุกเพลิดเพลิน
ด้วยความที่เราเป็นพระถึงจะบอกว่าดูหนัง ดูละครย้อนดูตัว เพื่อรู้ทิศทางกิเลส
จะได้สกัดได้ถูก
เหมือนที่หลวงพ่อพยอมท่านได้เคยพูด
แต่เราช่วงหลังๆก็ไม่รู้ว่าจะดูเรื่องอะไร ดูทำไมมันเราโตขึ้นอะ
เราจะดูละครไม่ค่อยได้จักรวงศ์ๆ การ์ตูนดูไม่เป็นแล้ว
อย่างถ้าละครไม่ฮิตฮอตทั่วบ้านทั่วเมืองจริง เราก็จะไม่ดูอะไรแบบนี้ไม่ได้ดู
ไม่ได้สนใจ แต่เรื่องนี้ยิ่งได้ดู ยิ่งได้ข้อคิดน่าสนใจ เลยมีโอกาสได้ดู
ทั้งคำพูดคำจาเรื่องนี้ มันมีจุดเด่นในแต่ละคน ก็ได้ดูเจริญพร”
เรื่องปัญหาการเลี้ยงดูที่ผิดแปลกวิธี
สอดคล้องเข้ากับหลักธรรมคำสอนไหนบ้าง?
พระมหาสมปอง :
“แน่นอน เวลาเรารักลูกมันจะมีความรักแบบหลงอะไรแบบนี้
อะไรก็ไม่ได้เลยห้ามลูกตลอด
กับมีแบบตามใจอย่างมาก ที่เค้าบอกว่าพ่อแม่รังแกฉัน
คือว่าเราต้องมีสติในการรักลูก คือเราจะมีข่าวที่ว่าเด็กตายอะไรต่างๆเยอะ
ยุคนี้พ่อแม่ต้องดูแลลูกเกือบ 24 ชั่วโมงน่าจะถึงอายุ15หรือเปล่า
เพราะว่าด้วยความที่พิษภัยมันเยอะมาก เด็กๆถูกฆ่าถูกต่างๆเยอะมากอะไรแบบนี้
สำหรับเรื่องนี้ก็ดูแลดี คุณนายทองใบเนี้ยโอ๋มาก รักมาก
และก็อยากให้ลูกสบายอะไรแบบนี้ ถึงลูกจะโตแค่ไหน พ่อแม่ก็ยังเห็นลูกว่าเป็นเด็ก
แต่ยังไงมันก็ต้องมีจุดที่ปล่อยให้เค้าได้โต การที่มองว่าลูกฉันถูกตลอด
คนอื่นผิดตลอดอะไรแบบนี้ มันก็กลายเป็นเข้าข้าง
ตอนแรกไม่รู้สึกอะไรแต่พอนานๆอาจคิดว่าเราทำอะไรก็ถูก มันกลายเป็นมิจฉาทิฏฐิของคุณแม่คุณลูก
แล้วก็จบชีวิตเนี้ยมันก็จะไม่ได้ สุดท้ายแล้วเนี้ย ธรรมมะก็จะชนะอธรรรม
เรื่องนี้มีความสอนใจอย่างมีความห่างเหินเกิดขึ้นแล้วไม่คุยกัน คุณแม่สมกับสุขสม
สุขสมคิดว่าแม่ไม่รัก จะมีคุณลูกหลายคนดูอยู่แล้วคิดว่าแม่ไม่รัก
เหมือนคิดว่าใครอยู่ใกล้แม่ และแม่ก็จะรักคนนั้น สายสนมอยู่ใกล้แม่
เค้าคิดว่าคนอยู่ใกล้แม่เป็นคนที่รัก ซึ่งมันก็สะท้อนชีวิตพี่สาวกับแม่อาตมาด้วยนะ
เราอยู่ด้วยกัน ช่วงไหนใครอยู่ใกล้แม่ แม่ก็จะรัก ใครอยู่ห่างแม่ แม่ก็จะรัก
อันนี้ไม่ได้พูดถึงในละครนะ พูดถึงชีวิตอาตมา (หัวเราะ)
แต่ว่าจริงๆแล้วท่านรักเหมือนกัน รักเท่ากัน คนที่ไม่ได้เรื่อง อาจจะมีบ่น
มีว่าบ้าง เพราะเค้ามีความเป็นห่วงเป็นใหญ่ ฉะนั้นเหมือนในละคร พอสุขสมเค้าห่าง
เค้าทำงานเยอะ ห่างทั้งสามี ห่างทั้งแม่ ห่างทั้งลูก
ก็จะรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นที่รัก
จริงๆแล้วกว่าจะรู้ว่าเป็นที่รักก็อยู่ที่ว่าสายเกินไปหรือเปล่า
ละครเรื่องนี้รู้สึกไม่สายเกินไป ฉากนั้นซาบซึ้ง คุณป๊อกเล่นด้วยไม่ต้องห่วงเลย
ให้ความอิ่มในอารมณ์ ให้ข้อคิดว่าครอบครัว เราก็อย่าให้ห่างเหินกันเกินไป
มีลูกแล้วกรุณามีเวลาให้เค้าด้วย พอเรารู้ตัวว่าเราไม่มีเวลาให้เค้า
เราต้องมีเวลาให้เค้า ซึ่งฝรั่งเค้าก็บอกอยู่แล้วว่า Sunday เป็นวัน
Family Day วันอาทิตย์เนี้ยเป็นวันแห่งครอบครัว
เค้าก็หยุดให้คุณทำกิจกรรมด้วยนกันแล้วเนี้ย คุณต้องไปทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน
พอมีความห่างเหินเนี้ยมีปัญหา ชีวิตจริงก็มีเยอะนะ อย่างครอบครัวน้ำพริกยี่ห้อนึง
แม่ลูกห่างเหินกัน มันก็เป็นปัญหาดราม่าต่างๆ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครมันน่าจะจริง”
ความคิดเห็นของท่าน คิดว่าประเด็นหลักของละคร
“เลี้ยงลูกอย่างไร...ได้อย่างนั้น” มีส่วนจริงมั้ย?
พระมหาสมปอง :
“น่าจะจริง อย่างอาตมาแม่ก็เลี้ยงแบบบุฟเฟต์หากินเอง
เปรียบสมัยนี้เค้าเลี้ยงกันอีกอย่าง สมัยเราตอนเด็กคือรูปมีน้อยมาก หาถ่ายยาก
ไฟไหม้ทีคือหาย ในขณะเดียวกันเด็กสมัยนี้อายุไม่เท่าไรมีภาพถ่ายเป็นหมื่นภาพแสนภาพ
เมมเต็มแล้วเต็มอีก สมัยก่อนเลี้ยงให้อดทน ให้เราทำอะไรด้วยตัวเอง
เราก็จะเป็นคนอดทน แต่ในขณะนี้ที่เดี๋ยวนี้เลี้ยงแบบสปอย ให้ทุกอย่าง ผิดก็มาช่วย
อ้างว่าความรัก มันทำให้เค้าไม่ได้เรียนรู้ชีวิตบ้างเลย เค้าก็จะเป็นคนที่ว่าคุณต้องมาอยู่ข้างเค้าตลอดเวลา
ต้องมาช่วยเค้าตลอด ละครเรื่องนี้สะท้อนเลยว่าคนไหนที่รู้จักทำงาน
รับผิดชอบไม่ได้อะไรที่มาง่ายๆ เค้าก็จะเป็นคนที่ต้องทำงานอะไรต่างๆ
แต่คนที่ได้แต่แม่มารับหน่อย แม่มาช่วยหน่อย
แม่อย่างนั้นอย่างนี้เค้าก็จะเป็นคนแบบนั้น ไปตลอด ซึ่งชีวิตจริงก็ไม่ได้ไกล
พี่ๆอาตมาก็มีความใกล้เคียงตรงนี้เช่นเดียวกัน เจริญพร”
ท่านคิดว่า “ละครบังเกิดเกล้า”
มีส่วนช่วยสะท้อนสังคมสถาบันครอบครัวอย่างไรบ้าง?
พระมหาสมปอง :
“สะท้อนมากเลยที่อาตมาได้ดู มันมีความใกล้อย่างมาก อย่างเช่นคนที่ใกล้เคียงแบบว่าไม่ยอมโต
ก็จะเหมือนแบบว่าแม่ๆๆ เรียกแม่ เราก็จะเห็นอยู่ทั้งในละครและชีวิตจริง
ซี่งในชีวิตจริงมีเยอะมากเลย เค้าบอกว่าเงินเนี้ยเป็นกระดาษที่คมมากเลย ตัดพ่อ
ตัดแม่ ตัดลูก ตัดพี่ ตัดน้องได้เลย ตัดผัวตัดเมีย ตัดสามีภรรยา ฉะนั้นเวลาเห็นแก่เงินทอง
อย่างในละครมีการขนของหนีภาษีเนี้ย พ่อเค้าอุตส่าห์ติดคุกให้ดูเป็นตัวอย่าง
เค้าอุตส่าห์บอกว่าจะไม่เป็นเหมือนพ่อ แต่สุดท้ายก็ผิดพลาด”
แล้วปัญหาการใช้ชีวิตของครอบครัว
ที่หลายบ้านมักมีปัญหาเรื่องความเจ้าชู้ นอกใจล่ะ?
พระมหาสมปอง :
“ความเจ้าชู้เนี้ย สะท้อนมากอาตมาว่า
ฝรั่งเนี้ยโดยส่วนใหญ่เค้าก็จะเต็มที่มากถ้ายังไม่ได้แต่งงาน
แต่เมื่อเค้าแต่งงานเมื่อไรมีสาวๆมามองหน้าเค้า
เค้าก็จะชู้นิ้วขึ้นมาเลยว่าเค้าแต่งงานแล้ว ขออนุญาตเอยนามไทเกอร์ วูด
อย่างตอนแรกที่เค้าตีกอล์ฟใครก็รัก ใครก็ชม
แต่พอเค้ามีปัญหากับภรรยานอกใจอะไรแบบนี้ เพื่อนๆก็จะไม่คบ มันจะมีผลทั้งที
ถูกลงโทษทางสังคมทันที ฉะนั้นแล้วคุณจะดื้อคุณจะอะไรตอนยังไม่มีครอบครัวได้
แต่พอคุณแต่งงานแล้วคุณต้องหยุด ไม่ต้องถึงกับว่าอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน
แต่ต้องรักคนในครอบครัว ต้องซื่อสัตย์ต่อกันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
ถ้าดูละครเรื่องนี้จะได้เห็นว่าเดี๋ยวไปกับคนนั้น เดี๋ยวไปกับคนนี้
ไปอาบอบนวดกับจุ๋ม ไปกับระยับ ชีวิตคนจะเห็นว่าจะไปทำกับเค้ายังไงก็ได้
สุดท้ายเค้าไม่นะ ทุกคนเค้ามีศักดิ์ศรีในตัวเอง ฉะนั้นมีเมียแล้วจะไปกับคนอื่นอีก
ก็จะเกิดมีปัญหาต่างๆกลับมามากมาย ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย
พอไปทำแบบนั้นก็ต้องมีอะไรที่ต้องชดใช้ ชีวิตจริงก็สะท้อนเรื่องนี้มากๆว่า
เวลาเราได้ยินดาราสวยหล่อสวย รักครอบครัว มันเท่ห์มากเลยนะ หลายๆคนที่เคยเจ้าชู้
พอเค้ามีครอบครัวแล้วหยุดทุกอย่าง มันจะดูเท่ห์มาก”
พูดถึงเรื่องการแสดงของทีมนักแสดง
“ละครบังเกิดเกล้า” แต่ละคนถ่ายทอดออกมาอย่างไรบ้าง?
พระมหาสมปอง :
“ให้วงการพระสงฆ์มาคอมเมนต์นักแสดง (หัวเราะ) แต่ละคนตัวพ่อตัวแม่มาก
พี่นักแสดงรุ่นใหญ่พี่ตุ๊กเดือนเต็ม นิ่มนวลมาก
บุคคลิกท่านเป็นคนแบบนี้แล้วในละครก็เป็นแบบนี้อีก เล่นดีมาก ส่วนคุณตุ๊กญาณี
ไม่ต้องห่วง ความขำ ความตลก ความสนุก อารมณ์บทจะร้องไห้ โอ้โห้น้ำตาเราจะไปด้วย
บทจะกวน โดนทำร้ายสู้เค้าไม่ได้ มันสะท้อนหลายอย่างมาก
คุณอ้วนรีเทิร์นก็ดีจ๊ะจ๋าเล่นดี คุณป๊อก
คือมีพลังในการพูดสะท้อนได้ออกมาอย่างชัดเจน พี่หนุ่มศรรามคือสุดยอดนะ
มารับบทแบบนี้จะเรียกว่าอะไรกึ่งๆคนไม่ดี
มันเหมือนฝรั่งนะเค้าดูที่บทบาทจะเป็นร้าย แต่เค้าเป็นเอกของเรื่อง สุดยอดมากๆ
ส่วนเอี๊ยงสิทธาก็เล่นได้ดีดูสุขมป็นอัครพลที่น่ารัก
ในขณะที่น้องไอซ์อมีนาก็มีความน่ารักเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่
และเด็กๆที่เล่นก็น่ารักดูแล้วเพลิดเพลิน
คุณอั๋นที่เล่นเป็นปกรณ์ก็เป็นรุ่นใหญ่ที่เล่นได้กลมกล่อม ดูแล้วเพลิน
ถ้าไม่ดูจะเสียดายที่ดูไม่ทัน เป็นอะไรที่ฝีมืออย่างมาก และได้แง่คิดมากๆ
ก็ออกตัวก่อนว่าที่มีโอกาสได้ดูเพราะว่าไปเยี่ยมโยมแม่ แล้วก็ได้ทั้งความสนุก
และข้อคิดธรรมมะ สุดท้ายแล้วได้ Family Father and mother I Love You อย่าลืมเอยคำว่ารักกับคุณพ่อคุณแม่ให้มากๆ
จะได้ไม่เห็นว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน รักกันเท่ากันทุกคน
แต่ว่าบ้างคนที่เค้าเห็นใส่ใจน้อย เพราะว่าคุณเก่งไง คุณสุขสมคุณเก่ง
ในขณะที่น้องเก่งไม่เท่า แม่เลยอาจจะต้องดูแลเยอะ อย่าน้อยใจว่าท่านดูแลเราน้อย
ใส่ใจเราน้อย พ่อแม่เองรักลูกอันนี้รู้
แต่สุดท้ายอย่าลืมให้ลูกรู้จักทำหน้าที่ของตัวเอง ฉะนั้นรักลูกก็อย่าลืมสอนลูก
อย่าลืมรักกันให้มากๆ ครอบครัวคือจุดที่เล็กที่สุด แต่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสังคม
เจริญพร”
ติดตามละครน้ำดีสะท้อนปัญหาครอบครัว
“บังเกิดเกล้า” ได้ทุกคืนวันเสาร์อาทิตย์ทางช่อง อมรินทร์ทีวี
เอชดี ช่อง34 (หลังรายการทุบโต๊ะข่าว) หรือรับ ชมละคร
“บังเกิดเกล้า" ย้อนหลังได้ทันที ผ่าน 3
ช่องทาง ที่ www.amarintv.com/บังเกิดเกล้า YouTube Channel AMARIN TV และ
LINE TV
Copyright