ข่าวหน้า1 2022-03-04 10:12:07 561
“แอนนา” เผย “กระติก” โวยจะตายทั้งทียังทิ้งภาระไว้-เปิดปมใหม่ คนมีสี เอี่ยวปริศนาแตงโม นิดา ตกเรือ?

สังคมยังไม่คลายปมสงสัยหลายประเด็น แตงโม นิดา ตกเรือกลางเจ้าพระยาเสียชีวิต หลัง กระติก ผู้จัดการส่วนตัว และเพื่อนบนเรือเปิดใจถึงคืนเกิดเหตุ ฟาก “แอนนา-วรินทร วัตรสังข์” เพื่อนสนิท ขอให้เล่าความจริงให้หมด ชี้ทุกอย่างแปลก ดูมีพิรุธไปหมด คาใจ กระติก บอก "ทำไมจะตายทั้งทีต้องทิ้งปัญหาไว้ให้ด้วย"


วันนี้ ( 3 มี.ค.65) “แอนนา” เพื่อนสนิท แตงโม นิดา เปิดเผยผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงการจากไปของเพื่อนสนิท ว่า 


“ไม่เชื่อเลยเรื่องที่แตงโม ไปปัสสาวะท้ายเรือ ตอนแรกมีหลายคนมาเตือนบอกให้ระวังกลุ่มนี้ เพราะพวกเขามีเส้นสายกว้างขวาง เราก็ระวังตัวนะ แต่เราไม่กลัวเพราะเพื่อนตายทั้งคน พวกเขาก็ไม่เคยติดต่อมาหาอะไรเราเลย มีแค่ได้คุยกับกระติกตอนที่ไปนิติเวช ตอนนี้เราสงสัยแค่ว่าทำไมกระติกไม่พูดความจริงเท่านั้นเอง เราเชื่อว่าที่เขาเล่ามามันไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เราแปลกใจตั้งแต่วันนั้น วันที่เราไปท่าเรือ พอเราจะไปเขาบอกไม่ต้องไป เขาให้เหตุผลว่าเราเป็นนักข่าว เขาตอบชัดเจนว่า เขาไล่เรากลับบ้านเพราะเราเป็นนักข่าว ถ้าเราทำอาชีพอื่นเขาคงให้เราอยู่ต่อ เราบอกให้เขาสาบาน เขาบอกว่า ทำไมต้องสาบานให้เธอสบายใจ แถมเขายังบอกอีกว่า "ทำไมแตงโมจะตายทั้งทีต้องทิ้งปัญหาไว้ให้ด้วย" และที่ทำให้เราไม่เชื่อเรื่องนี้เพราะ แตงโม เป็นคนอั้นปัสสาวะเก่งมาก และ แตงโม ว่ายน้ำเป็น ถ้าตกลงไปยังไงก็ต้องประคองตัวได้ในระดับนึง ที่ผ่านมาเคยไปว่ายน้ำด้วยกันในระดับที่ลึกมาก เราก็ถามแตงโมว่าทำได้ไง แตงโมก็อธิบายให้ฟังว่าตีขาสิ ง่ายมาก และยังมีเรื่องชุดอีก ชุดที่แตงโมใส่ยาวกรุยกราย ไปปัสสาวะคงยากมาก


แอนนา เล่าต่อว่า “ได้มีการถามกระติกถึงเรื่องผลประโยชน์ต่างๆที่แตงโมทิ้งไว้ให้ ว่ามีบ้างไหม เขาบอกไม่มี สุดท้ายเราก็มารู้จากฮิปโปว่ามีเงินประกันอุบัติเหตุจากที่แตงโมไปทำกับอีกรายการนึงไว้ พอเราไปถามเขาก็อ้างว่านึกว่าเป็นคอนเทนต์รายการเฉยๆ ส่วนวันที่ได้มีการคุยกับกระติก แล้วกระติกเล่าทุกอย่างให้ฟัง วันนั้นเขาบอกว่า เขาจะต้องมาพูดกับสังคมอยู่แล้ว เราบอกว่าถ้ากระติกเล่าแบบนี้นะ เราจะช่วยพูดให้ทุกคนเคลียร์ ซึ่งเขาก็ออกมาพูดแล้ว แต่เราไม่บอกแล้วกันว่าเราเชื่อหรือไม่เชื่อ ตอนแรกเราไม่แน่ใจว่ากระติกไปรับงานอะไรมารึเปล่า ซึ่งกระติกบอกว่าไม่มีอะไรหรอก แต่จากคลิป "โมมันพูดยาก" เราเลยเริ่มคิดว่ามันผิดสังเกตุ เราอยากให้มีการเช็ค Statement ยอดเงินล่าสุดว่ามีอะไรแปลกๆไหม เราไม่รู้ว่าตร.ให้กระติกเข้าเครื่องจับเท็จรึยัง หรือว่าจะรอให้เขาดีขึ้นก่อน” 


แอนนา เปิดเผยว่า “วันเกิดเหตุได้แชตไปหาแตงโม เพื่อจะได้โอนเงินให้ ก่อนไลน์ของแตงโมจะแชตตอบกลับมาทันทีว่า ได้ๆ แพพๆ ซึ่งเวลาที่ไลน์ของแตงโมแชทตอบกลับมาคือ เวลา 22.21 น. ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ทางกู้ภัยได้รับแจ้งทางไลน์เวลา 22.49 น. ว่า แตงโม ตกน้ำ เราเองก็แปลกใจ ปกติแตงโมไม่ใช้คำแบบนี้ แล้วเวลาส่งเลขบัญชี เขาจะส่งรูปเลขบัญชีกลับมาเลย มันง่ายมาก”  


แอนนา ยืนยันว่า แตงโม ไม่มีวันยอมรับงานกินข้าวแน่นอน และอีกอย่าง วันรุ่งขึ้น แตงโมมีงานที่ต้องไปถ่ายกับพี่คิ้ม เขาคงไม่ดื่มหนัก แล้วกลับดึกแบบนี้ผิดวิสัย เพราะก่อนนอนเขาต้องทานยาก่อนนอน ก่อนหน้านี้เราเคยขึ้นเรือกับโม 2 ทุ่ม เรือเทียบท่า เราเลยถามโมว่ากินอะไรต่อไหม โมบอกไม่เอาแล้ว เดี๋ยวนี้นอนเร็ว


"เราเชื่อว่าถ้าโมรู้ว่าโมจะเจออะไรแบบนั้น โมก็คงต้องวี้ดว้าดแน่นอน เธอฆ่าฉันเถอะถ้าจะให้ทำอะไรแบบนั้น เขาแอนตี้อะไรแบบนี้มาก ถ้าเขารับงานแบบนี้จริง เขาคงรวยไปแล้ว" แอนนา กล่าว


ทางด้าน ทนายนิด้า “ศรันยา หวังสุขเจริญ” ทนายความชื่อดัง เผยว่า 

“ไม่เชื่อว่าจะมีการปัสสาวะเกิดขึ้นจริง อาจจะเป็นการสร้างสตอรี่ขึ้น ซึ่งหากเจ้าหน้าที่เชื่อที่เขาอ้าง คดีขึ้นไปสู่ศาล แล้วสิ่งที่เขาอ้างฟังขึ้น ก็จะไม่มีใครต้องรับผิดเรื่องใหญ่ๆ สตอรี่ที่เขาสร้างขึ้น เขาพยายามผลักภาระให้แตงโม ว่าแตงโมเป็นคนตกไปเอง เขาพยายามหาเหตุผลว่าทำไมแตงโมไปปัสสาวะขึ้นมา เรื่องนี้เชื่อเลยว่ามีการเตี๊ยมกันอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องสืบต่อไปว่าเตี๊ยมกันเพื่อปกปิดเรื่องอะไร และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการผลักให้ใครรับผิดไปคนเดียว แต่ก็ไม่แน่ คดีมันยังไม่นิ่ง เพราะตอนนี้เรื่องถูกถ่ายทอดออกไปหลายเวอร์ชั่นมาก ณ วันนี้มันจวนตัวแล้ว สุดท้ายแล้วถ้าในกลุ่มมีคนทรงอิทธิพลจริง ถ้าจะทิ้งให้ใครรับผิดไปสักคน ก็อาจเป็นไปได้”


ทนายนิด้า ยังตั้งข้อสังเกตุเรื่อง ข้อความแชตไลน์ที่ตอบกลับแอนนาว่า เขาให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่แตงโมตกเขายังไม่แจ้งกู้ภัย เขาวนหาด้วยตัวเองก่อน ไม่อยากละสายตา เขาบอกว่าใช้เวลาอยู่ตรงนั้นประมาณครึ่งชม. พอมันไม่มีฟีดแบ็คกลับมาเลยแจ้งกู้ภัย ทีนี้ถ้าเอามาเทียบกับไทม์ไลน์ของกู้ภัยวชิระ มีการแจ้งเหตุตอน 22.49 น. หากย้อนกลับไปครึ่งชม. แสดงว่า แตงโมต้องตกเรือไปตั้งแต่ 4 ทุ่มกว่าๆ แล้ว แล้วอย่างนั้น เวลา 22.21 น. ใครเป็นคนตอบแชตแอนนา ส่วนเรื่องภาพถ่ายสะพานพระราม 8 ที่ตอนนี้ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยกันว่าถ้าไฟสะพานปิดตอน 3 ทุ่ม แล้วทำไมในภาพไฟยังเปิดอยู่ และ จนท.ก็ออกมายืนยันว่าวันดังกล่าวไฟปิดตอน 3 ทุ่ม แถมมีคลิปภาพวงจรปิดร้านอาหารบริเวณนั้นที่ถ่ายติดสะพาน ก็พบว่าไฟสะพานถูกปิดไปแล้ว จะอ้างว่าเป็นการถ่ายภาพในโหมดไนท์โหมดจะทำให้ภาพสว่างขึ้นทั้งหมด แต่ไม่ได้ทำให้สว่างบางจุด แต่ภาพนั้นที่มีการโชว์ออกมา ไม่แน่ใจว่าถูกปรับแต่งรึยัง หรือมีการปรับแต่งมาแล้วให้เมีการสว่างบางจุด และยังมีคนตั้งข้อสังเกตุอีกว่า เจ้าของอู่เรือเคยให้สัมภาษณ์ว่า คนบนเรือโทรมาบอกให้ช่วยตามหาโมหน่อยตอน เวลา 22.20 น. แล้วใครเป็นคนตอบแชตแอนนา ตอน 22.21 น.


ขณะที่ นาย “สันธนะ ประยูรรัตน์” อดีตตำรวจสันติบาล ได้มีความเห็นว่า  

ไม่เชื่อเหมือนกันที่แตงโม จะไปปัสสาวะท้ายเรือจริง และนอกจากนี้ เชื่อว่าหากมีการทิ้งเวลานานไปกว่านี้ ไม่มีการนำตัวคนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ อาจจะจับพิรุธได้น้อยลง เมื่อมีข่าวแตงโมตกน้ำเสียชีวิต ผมคุยกับคนข้างในว่า น้องกระโดดน้ำไปเอง หรือ โดนผลักตกน้ำ และเมื่อมองลงไปว่า ประจักษ์พยานเหลือ 5 ชีวิต 1 ชีวิตเสียไปแล้ว คนนึงเป็นนักธุรกิจ รู้จักกับบิ๊กที่ปรึกษาระดับประเทศ คนต่อมา นักธุรกิจ อยู่ในวงการพูดน้ำไหลไฟดับ ใครพูดก็ต้องเชื่อ ผู้ชายอีกคนเป็นลูกน้องของนายคนนี้ ส่วนผู้หญิงอีก 2 คนที่เหลือก็อย่างที่ทราบ ฉะนั้นน่าจะเดาทางได้ ที่ผมรู้มาคือน่าจะมีตัวละครมากกว่านี้ และมีบิ๊กผู้ใหญ่คนนึงอยู่ในห้องพักโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา และจากคำให้การที่ผ่านมา ยิ่งให้การมากขึ้นก็ยิ่งมีพิรุธ ประเด็นตกเรือเพราะนั่งปัสสาวะท้ายเรือ ถ้าคุณจะปัสสาวะก็แค่บอกให้เขาเทียบท่า คุณนั่งสปีดโบ๊ทนะไม่ได้นั่งเรือจ้าง และยิ่งแตงโมเป็นนักแสดง เขาคงไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อขนาดนั้น ผู้ชายบนเรือก็ไม่ได้รู้จักกัน เรือลำนี้ใครเคยขึ้นก็ต้องทราบ แมวตกเรือก็ยังเห็นเลย เป็นเพื่อนกัน ไปด้วยกัน ผู้หญิงตกน้ำทั้งคน ไม่เห็นมีใครตัวเปียกสักคน หรือใส่ชูชีพโดดลงไปช่วย ไม่มีเลยสักคน เรื่องนี้ถ้ามีคนนึงรับผิด รับรองโดนรวบทุกคน”


นายสันธนะ คาดว่า วันนั้น ที่ออกเรือไปดินเนอร์ เปิดไวน์ กินข้าวเสร็จ ล่องเรือ พอได้ที่ก็คงมีการพูดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ด้วยความเป็นตัวเองของน้องแตงโม เขาคงสวนกลับขึ้นมาว่าฉันไม่ใช่อย่างนี้นะ แล้วบิ๊กผู้ใหญ่ที่อยู่ที่ห้องโรงแรมหรูริมน้ำ คงรอเมื่อไหร่จะเทียบท่าสักที ดึกกว่านี้อาจหัวแตกได้ ในวันเกิดเหตุจริงๆ ต้องอายัดเรือ ตรวจร่างกายทุกคน แต่กลับปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป พยานหลักฐานก็ได้ถูกทำลายไปจนเกือบสิ้นแล้ว มันมีสัญญาณตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้ว ตั้งแต่ที่เขาพูดว่าเพื่อนตกเรือ แต่พอตี 3 ก็แยกย้ายกันไปแล้ว ไม่ดูเพื่อนเลย





รูปภาพเพิ่มเติม