ข่าวหน้า1 ข่าวบันเทิง 2022-09-08 16:59:21 402
"มิ้วกี้ ไปรยา" ร่ำไห้ เปิดใจรับยังห่วงอดีตสามี

เป็นการออกมาเปิดใจทั้งน้ำตา สำหรับ มิ้วกี้ ไปรยา ที่ล่าสุดมาพูดคุยเปิดใจในรายการ WOODY FM โดย มิ้วกี้ เผยว่า

ชีวิตของ มิวกี้ ไปรยา เป็นชีวิตที่หลายคนอิจฉาไหม ?

มิวกี้ : ดีใจที่เขาอิจฉาอยากจะเป็นเรา เพราะว่ากว่าจะเป็นมิวกี้มันไม่ง่าย ไม่ได้ดีใจที่เขาอยากเป็นเราที่ช้อปปิ้งวันละกี่ล้าน อยากจะบอกว่าในระหว่างการเดินทางของชีวิตมีหลายเรื่องราว วันนี้อายุ 34 ปี นั่งคิดว่าทำไมเราผ่านอะไรมาได้เยอะขนาดนี้ ผ่านความลำบาก เหน็ดเหนื่อยต่อสู้ การดูถูก เพราะว่าโตมาจากชุมชน เราก็จะเห็นเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ไปยืมเงินคนอื่นเป็นยังไง เห็นหลากหลายเรื่องราวของคนในซอยบ้าน รู้สึกว่าเราต้องไม่เป็นแบบนี้ ต้องพาพ่อแม่และน้องออกไปจากตรงนี้ให้ได้ ไม่ได้โกรธหรือเกลียดเวลาที่ใครว่าหรือดูถูก ใช้คำว่าแค่เสียใจมากกว่า รู้สึกว่าเขาก็คือแรงผลักดันอย่างหนึ่งที่ทำให้เรามีวันนี้


อยากเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้หญิงทุกคนที่คิดว่าตัวเองแบบชีวิตนี้ฉันทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว คุณทำได้ หนูบอกทุกคนเสมอว่าไม่แข่งสวยกับใคร ไม่แข่งว่าฉันเป็นไฮโซ แต่ถ้าถามว่าสู้ขนาดไหนสู้ยิบตา ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะสู้จนมีวันนี้ ในวันนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าประสบความสำเร็จตามที่ต้องการแล้ว ซึ่ง goal คนเรามันก็ต้องมีไปอีกตลอดชีวิต แต่ว่าเราพอใจในสิ่งที่มีทุกวันนี้มากๆ มีคุณแม่ คุณพ่อ ที่ร่างกายยังแข็งแรงดูแลตัวเองได้ ลูกชายก็น่ารัก มีทีมงานที่สู้ไปด้วยกัน มีเพื่อนๆ มีแฟนคลับที่น่ารักมากๆ ที่ซัพพอร์ตตลอดเวลา มันยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว


เป็นคนที่ดูแลหุ่นได้ดีมาก มีเคล็ดลับไหมในการดูแลร่างกาย ?

มิวกี้ : อันดับแรกเลยก็คืออกหักลดลงไป 10 กิโล ตอนที่เลิกกับสามี แต่ว่าก็ออกกำลังกายเป็นประจำค่ะ


เลิกกับสามีนานหรือยัง เห็นคุณโพสต์ว่าถ้าเลือกได้ก็ยังคงแต่งงานกับคนเดิม ?

มิวกี้ : ตั้งแต่เดือนมกราคม ใช่ค่ะ 8-9 ปีที่แล้วผ่านมาด้วยกัน ตอนนั้นเรามีความสุขจริงๆ คือถ้าเราไม่มีความสุข เราไม่เลือกคนนี้แน่นอน ย้อนกลับไป ณ เวลานั้นเขาก็เป็นคนดี คนที่น่ารักของหนูจริงๆ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็ยังเลือกเขา ยังดีใจที่เขาเป็นพ่อของลูก


ตอนที่เลิกเหมือนจะมีดราม่าเยอะเหมือนกันใช่ไหม ?

มิวกี้ : สังคมไทยฟังคำพูดของคนอื่นมากจนเกินไป บางครั้งเราหลงลืมตัวเราเอง ว่าจริงๆแล้วเราทำแบบนี้ได้นะ อย่างเช่นเรื่อง Move On ไว หลายคนสนใจเรื่องนี้มากๆ อยากจะถามว่าต้องรอเท่าไหร่ถึงจะช้าหรือเร็ว 3 ปีเหรอ เราบอกไม่ได้เลยว่าพรุ่งนี้เราจะเจอคนหนึ่งที่คุยแล้วสบายใจได้ไหม สุดท้ายแล้วสเปคไม่สำคัญเท่ากับความสบายใจ เราต้องคิดให้ได้ก่อนว่าเรื่องเก่ามันทำอะไรไม่ได้แล้วมันจบไปแล้ว เราต้องเดินหน้าต่อ


หย่ากันหรือยัง ?

มิวกี้ : ยังค่ะ จนถึงทุกวันนี้เขาเอาอะไรก็ยอมให้ แต่ขอสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกเป็นของเรา 100 % แค่นี้พอแล้ว เพราะเชื่อว่าเราสามารถทำงานแล้วก็หาเงินได้ด้วยตัวเอง ไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลยค่ะแม้แต่บาทเดียว


คิดถึงเรื่องนี้ทุกคืนไหม ?

มิวกี้ : คิดถึง ตัวเราเองเป็นห่วงเขาว่า วันหนึ่งเขาไม่มีเราแล้ว เขาไปทำงาน ทำอะไรจะโอเคไหม ซึ่งหนูอยากให้เขาโอเค มันมีหลายเรื่องราวมากเลยค่ะที่หลายคนไม่รู้


ในใจคุณเจอปัญหานี้อยู่ แต่คุณก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ ?

มิวกี้ : ตลอดเวลา (น้ำตาไหล) หนูไม่มีความคิดไม่ดีกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว


ถ้าขอพรได้ 1 ประการตอนนี้ อยากได้อะไร ?

มิวกี้ : อยากให้ตัวเองกลับมาแข็งแรงให้เร็วที่สุด แข็งแรงแบบ 100%


ตอนที่แยกทางเสียใจมากใช่ไหม ?

มิวกี้ : เสียใจค่ะ หลายคนจะคิดว่าคนที่บอกเลิกก่อนต้องไม่เสียใจ แต่จริงๆ เราเสียใจมาก ที่ตัดสินใจที่จะเดินออกมาจากตรงนั้น ช่วงแรกก็นอนไม่ได้ นอนคนเดียวไม่ได้ เพราะเรานอนกับคนๆ หนึ่งมา 8-9 ปีทุกวัน นอนไม่ได้เลย ไม่ปิดไฟนอน มันแปลกไปหมดเลย อยู่บ้านไม่ได้ ต้องหาที่ออกไป ไปต่างจังหวัด ไปทำอะไรให้มันยุ่งๆ เป็นช่วงเวลาที่ยากมากๆ 


เดี๋ยวเรื่องนี้ต้องจบลงด้วยอะไรบางอย่าง ต้องมีใครบางคนปล่อยวาง?


มิวกี้ : ภาวนาให้เขาปล่อยวางมันจะได้จบกันแบบสวยที่สุด ดีที่สุด ในหัวเราคิดทุกวันว่า มิวกี้วันนี้ปัญหามันเข้ามาแล้ว จะเอายังไงจะนอนอยู่เฉยๆ หรือว่าจะลุกขึ้นมาแล้วสู้กับมัน แล้วจะมีคำหนึ่งในหัวจะบอกลูกน้องตลอดว่า คนที่นอนตายหมดลมหายใจเท่านั้นที่จะไม่สู้ มิวกี้ลุกขึ้นมาแล้วสู้ต่อ


พูดถึงเรื่องความรักหรือคนที่จะคบด้วยตอนนี้เราไม่จำกัดเรื่องของเพศ ?

มิวกี้ : ไม่ค่ะ สเปคไม่สำคัญเท่ากับว่าเราอยู่กับใครแล้วสบายใจ ตอนนี้หนูเปิดกว้างกับตัวเองมากๆ ทุกเพศ เมื่อก่อนยอมรับว่าหญิงมันต้องกับชาย แต่ทุกวันนี้รู้สึกว่าถ้าอยู่กับใครแล้วสบายใจ หนูรักที่เขาเป็นตัวเขา เขารักที่หนูเป็นตัวหนู เรื่องเพศไม่สำคัญ หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้มันสอนหลายอย่างมากๆ เลย เมื่อก่อนเราต้องบังคับตัวเองกับสเตตัส ตกลงเราเป็นอะไรกัน ทุกวันนี้หนูไม่มีสถานะอะไรเลย เชื่อว่าสถานะที่ดีที่สุดคือรักที่ไม่มีเงื่อนไข ถ้าเราจำกัดสถานะมันจะเกิดความหึงหวง อารมณ์ ความเป็นตัวเองหลายๆ อย่าง แต่พอเราเป็นเพื่อนกัน เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน วันหนึ่งก็จะไม่มีคำว่าเลิกรา ไม่มีคำว่าเกลียดกัน เราตกลงกันว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปยาวที่สุด ฉะนั้นสถานะไม่ต้องพูดถึง


รูปภาพเพิ่มเติม