ครูไพบูลย์ แสงเดือน ออกมาไลฟ์สดใน ติ๊กต็อก และมีคนเข้ามาถามกรณีที่อดีตภรรยา เอ๋ มิรา ได้ยื่นฟ้อง ครูไพบูลย์ ข้อหาพรากผู้เยาว์ เมื่อมีชาวเน็ตถามมา เจ้าตัวก็ตอบแบบตรงๆว่า
“คุณถามว่าผมจะติดคุก ผมจะติดคุกข้อหาอะไรครับ ผมจะติดคุกอะไร ผมก็บอกว่าผมไม่ได้ทำ ก็เป็นผัวเป็นเมียกัน อยู่ด้วยกันมันจะพรากผู้เยาว์ได้ยังไง เขาก็ยินยอม พ่อแม่ครอบครัวเขาก็รู้กันหมด อยู่กินกันมา 7 ปี มันจะมาพรากผู้เยาว์ได้จังได๋ สูคือปึกแท้ ถ้าเอาไป 1 เดือน 2 เดือน 1 ปี 2 ปี หรือว่า เขาไม่เต็มใจ พ่อแม่ สังคมไม่รับรู้อย่างนี้ เขาถึงเรียกว่าพราก เข้าใจบ่”
“ผมก็พูดในสิ่งที่พูดได้ ผมก็ไม่ได้พาดพิงถึงใคร ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน เขามีสิทธิ์พูด ผมก็มีสิทธิพูดสิครับ คนที่บอกว่าไม่เคยโทษตัวเอง ถามหน่อยว่าต้องโทษว่าอะไร ต่างคนก็ต่างเลิกกันไปแล้ว ผมอยากถามว่า ผมจะพูดไปเพื่ออะไร ตอนนี้ก็ดำเนินไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ผมก็เคารพการตัดสินของศาล ผมก็น้อมรับ เราจะสู้ยังไง คือเราก็ยืนยันการเป็นสามี ภรรยา กันอย่างถูกต้อง เราไม่ได้พราก เรารักกัน อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา มีทะเบียนสมรส ส่วนคนจะคิดยังไงก็แล้วแต่เขา”
“ถ้าจะเอาความผิดกันเรื่องพรากผู้เยาว์ตั้งแต่ปี 56-57 ตอนที่เราคบกัน ผมก็เคารพการตัดสินของศาล แต่ผมจะบอกสังคมว่า ผมไม่ได้พราก เราอยู่ด้วยกัน สังคมรับรู้ เรามีลูกด้วยกัน พอผ่านไป 7 ปี เมื่ออยู่ด้วยกันไม่ได้ เราก็หย่ากัน เราก็แยกกันอยู่ ผ่านมา 3-4 ปี ผมได้เมียใหม่ ผมผิดเหรอครับ ผมเอาเมียเอาลูกใหม่ ผมผิดเหรอครับ ถ้าผมเป็นคนธรรมดา ต่างคนต่างอยู่มันจบไปแล้ว มันไม่จำเป็นต้องพูดให้ใครฟัง จะเล่าไปทำไม พูดเท่าที่พูดได้ ถ้าถามผม สิง่ที่ผมจะพูดได้คือ ผมไม่ได้พราก อยู่กินฉันท์สามีภรรยา คบกันสมัยผมอยู่ปี 4 ปี 5 เราก็คบเป็นแฟนกัน ทุกคนรู้ มีลูกด้วยกัน ไปมาหาสู่กัน พอเลิกกัน แม่เขาก็บอกว่าอยากฟ้องผม ว่าผมไปออกรายการ ก็เป็นการฟ้องแก้เกี้ยวก็แค่นั้น ผมไม่ได้หลอก ทุกคนมีอดีต ผมพูดถึงคนอื่นด้วยนะ ผมก็เคยมีแฟน เขาก็เคยมีแฟน กระต่ายก็เคยมี ทุกคนก็เคยมี มันก็เป็นเรื่องปกติ”
Copyright