จากดราม่า ลีน่า จัง กระชากวิก แพรรี่ ไพรวัลย์ กลางไลฟ์สด ทำให้ แพรรี่ เกิดความไม่พอใจอย่างมาก ซึ่ง มดดำ คชาภา ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงได้เปิดใจเรื่องนี้กับผู้สื่อข่าวว่า
“ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้โปรโมตด้วย ก่อนอื่นต้องขอโทษแพรรี่กับขอโทษแม่ลีน่า อันนี้ต้องขอโทษทั้งคู่จริงๆ จากที่วันนั้นเราจะถ่ายสองเทปอยู่แล้ว ในบ้านเราก็จะมีห้องหลายห้องก็ให้คุณลีน่าจังอยู่ห้องหนึ่ง คุณแพรรี่อยู่อีกห้องหนึ่ง ปรากฏว่าตอนที่อัดเทปรายการคุณแพรรี่จบ
ทีมงานบอกว่าขอไลฟ์หน่อย ซึ่งแม่ลีน่าเป็นคนเล่นใหญ่อยู่แล้ว แต่ก็รู้ว่าเวลานางเล่นก็เบรกไม่อยู่ ส่วนแพรรี่เองตั้งแต่ตอนแรกใครไปจับหัวเขาก็จะพูดเลยว่า “แม่…อย่าเล่นผมหนูเลย” ซึ่งอันนี้เขาพูดกับเราส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ในหนังของพี่พชร์ที่เคยเห็นว่ามีการโดนกระชากวิกอันนั้นมันมีการเตี๊ยมมาก่อน
แต่เหตุการณ์เมื่อคืนนี้อยู่ดีๆ เราไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น เหมือนกำลังจะกอดลากันแล้วแม่ลีน่าก็เอามือไปดึงวิกแพรรี่ ตอนนั้นรู้เลยว่าแพรรี่น้ำตาไหลเลย”
วินาทีนั้นตัวเราก็ช็อก?
“ช็อก! บ้าใครจะไม่ช็อกล่ะ ทุกอย่างกำลังจะจบดีๆ แล้วแพรรี่เองก็เดินไปร้องไห้ในห้องน้ำ เรามารู้อีกทีตอนที่ลูกน้องมาบอกว่าพี่แพรรี่ร้องไห้ เราก็รู้ว่ามันหนักแล้ว เลยเรียกแม่ลีน่ามาบอกว่าขอคุยด้วยหน่อยสิ คือในระหว่างที่เรากับแม่ลีน่ากำลังอัดเทปรายการต่อ ทางแพรรี่ก็ไลฟ์ เราก็เลยตัดสินใจบอกแม่เองว่าแม่ต้องขอโทษเขานะ”
หลังเกิดเหตุการณ์ไม่ได้เคลียร์ใจกัน 3 คน?
“ไม่ได้เคลียร์ เราเองก็ต้องทำงานต่อ อย่างที่บอกว่ามารู้อีกทีก็คือแพรรี่ไลฟ์แล้ว ซึ่งมันก็ไม่ผิดที่เขาจะทำอย่างนั้น แล้วเขาก็พูดคำนึงที่เราสะอึกว่า…วิกของเขาก็เหมือนหัวครูเขา ไปดึงเขาเขาก็รู้สึก แต่คุณลีน่าจังก็บอกแล้วว่ามันคือการแสดง แต่มันไม่ใช่การแสดงเพราะตอนนั้นไลฟ์อยู่”
ยืนยันไม่มีการจัดฉากสร้างกระแส?
“ไม่เคยจัดฉากอยู่แล้วมั้งคะ ถ้าจัดฉากอย่างนั้นก็คงไม่ทำ แล้วก็ไม่ใช่คอนเทนต์ด้วย ชีวิตนี้ชอบอยู่เฉยๆ จริงๆ เมื่อคืนที่คุยกันคุณลีน่าก็บอกว่าเขารู้สึกผิด แต่วันนี้ที่ออกมาไลฟ์เป็นอีกเรื่องหนึ่งเลยใช่ไหม คิดว่าตอนที่นางคุยกับเรานางคงช็อก แต่พอกลับไปบ้านแล้วคงจะไปคิดอะไรสะระตะแล้วก็ไลฟ์ใหม่”
ในฐานะที่เป็นคนกลางจะต้องไปคุยกับทางลีน่าจังและแพรรี่อีกรอบไหม?
“ยังไม่ได้คุยกับใครเลย ทุกครั้งเวลาที่เราทำรายการเราจะรู้ว่าคำตอบคืออะไร แต่อันนี้คือแบบอะไรมันเกิดขึ้นเนี่ย ติ๊กต็อกทวิตเตอร์กระหน่ำ เช็กก่อนเลยว่าทัวร์ลงเราหรือเปล่าอย่างแรกเราไม่เกี่ยวข้องนะเรื่องนี้”
กลัวมีผลกระทบมาถึงตัวเองไหม เพราะบางคนมองว่าทำไมเราถึงยังให้พื้นที่กับคนคนนี้อยู่?
“มันเริ่มตั้งแต่รายการตีท้ายครัวที่ตัวเองไปรับปากเขา ว่า เดี๋ยวจะช่วยหางานให้นะ เอาจากใจไม่ได้เป็นคนดีนะแต่ก็แอบสงสารนาง คือนางเล่าว่าคลินิกที่นางทำก็ปิดไป นางไม่มีรายได้
เราก็รู้สึกว่าอะไรช่วยกันได้เราก็อยากช่วย เพราะว่าเมื่อก่อนเราก็เคยหากินกับเขา ตอนที่เราอยากจะสัมภาษณ์อะไรแรงๆ เราก็เอาเขามาออกตลอด เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงยังได้มาทำงานด้วยกัน”
หลังจากนี้จะทำยังไงต่อในฐานะที่เป็นคนกลาง?
“อันนี้เราก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะว่าอันนี้เราก็ไม่ได้เซ็ต แล้วก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดขึ้น อยู่ดีๆ ทุกคนหวังดีที่จะช่วยไลฟ์เพื่อช่วยโปรโมตเพจ ปรากฏว่าไลฟ์มาตั้งนาน ใครจะคิดว่าตอนจบมันจะเป็นอย่างนี้”
ลีน่าจังบอกว่าทำไปด้วยความเอ็นดู ในมุมมองของเราที่อยู่ในเหตุการณ์คิดเห็นอย่างไร?
“เราพูดกับเขาว่า…แม่! โลกมันเปลี่ยนยุคไปแล้วเนอะ เมื่อก่อนการด่าคนการเปรียบเทียบคนมันอาจจะเป็นเรื่องที่คนชอบเป็นเรื่องที่ดัง เลยพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าเรากำลังตกยุคอยู่หรือเปล่า ถามนางไปแบบนั้น เมื่อวานนางก็เหมือนฟัง แต่เช้ามานางก็ไม่ฟังแล้วอ่ะ
แต่ถ้าให้พูดจริงๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ปะทะคารมกันสนุกสนานอันนั้นโอเค เหตุการณ์เมื่อวานพูดกันแบบเป็นกลางเลยว่าแพรรี่อดทนสูงมาก เพราะตอนแรกคุณลีน่าจังมีการไปพูดถึงแฟนเขาด้วย เขาก็อดทนมาตลอด แต่เขาบอกว่าสิ่งที่เขารับไม่ได้เลยก็คือการดึงวิกเพราะวันนี้เขาแต่งหญิงแล้ว แต่พอมาพูดกับคุณลีน่าจังเขาก็บอกว่าทำไมเหรอมันจะคิดมากทำไม เราอยู่ตรงกลางก็ไม่รู้จะยังไงเพราะเราก็เป็นคนเอาเขามา”
หลังจากนี้ถ้าต้องทำงานด้วยกันอีกอาจจะต้องมีสคริปต์ให้ลีน่าจังไหม?
“ถ้าจะต้องทำก็ต้องมีขอบเขต แต่ปัญหาคือจะคุมได้ไหม”
Copyright