สาวใหญ่ล่ามมวย ป่วยหนักหมดตัว
เขาทราย-ฉัตรชัย-โอ๋ ร่วมเยี่ยมให้กำลังใจ
"ป้าจี๊ด" สาวใหญ่วัย 65 อดีตไกด์ และล่ามเจรจาศึกแชมป์โลกนัดยิ่งใหญ่มากมาย เผชิญมรสุมชีวิตครั้งใหญ่ เหลือแต่ตัวตกงาน ไร้บ้านพักพิง แถมยังป่วยหนัก ญาติไม่เหลียวแล อาศัยเพื่อนสนิทอยู่ ล่าสุด เขาทราย ฉัตรชัย และ ศิริมงคล อดีตแชมเปี้ยนโลก ผู้เคยผูกพัน รุดเยี่ยมให้กำลังใจ
เมื่อวันที่ 9 ก.พ.64 ที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 6 ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เขาทราย แกแล็คซี่ ,ฉัตรชัย สาสะกุล ,ศิริมงคล สิงห์วังชา สามอดีตแชมป์โลกชาวไทย และ "ป๋าไฝ" นายมานพ เอี่ยมท้วม หัวหน้าค่ายมวยสิงห์มนัสศักดิ์ เดินทางไปเยี่ยม "ป้าจี๊ด" นาง วรรณภา รุ่งโรจน์ อายุ 65 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับ นางกุนที บวรเวสสะ และ นาง ปัญสิร์ พิริยงศ์ เจ้าของบ้านซึ่งเป็นเพื่อนกัน
ทันทีที่ได้พบกับอดีตแชมป์โลก ป้าจี๊ด ถึงกับร่ำไห้สวมกอดกันด้วยความปลาบปลื้มใจ หลังจากไม่ได้พบกันมานาน พร้อมขยายความว่า ในอดีตนั้น นางมีอาชีพเป็นไกด์ และล่ามภาษาญี่ปุ่น เคยทำงานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยตั้งแต่ยุคสมัย นายทักษิณ ชินวัตร และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
ในส่วนของมวยโลกนั้น เคยประสานงานครั้ง "แชแม้" นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ผจก. พา เขาทราย ไปป้องกันแชมป์โลก WBA ที่ญี่ปุ่นหลายครั้ง และมีส่วนสำคัญในการช่วย ประสานกับทาง "เสี่ยเน้า" นายวิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ เจรจากับ เคียวเอ้ โปรโมชัน จนทำให้ "ครูหนึ่ง" ฉัตรชัย สาสะกุล ได้ไปชิงแชมป์โลก ไฟต์ล้างตากับ ยูริ อาร์บาชาคอฟ แย่งแชมป์ฟลายเวต WBC ได้สำเร็จที่ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 1997 รวมทั้งยังช่วย "บิ๊กอึ่ง" สมภพ ศรีสมวงศ์ ครั้งพา ศิริมงคล สิงห์วังชา ไปป้องกันแชมป์โลก WBC ที่ญี่ปุ่น ฯลฯ
ล่าสุด "ป้าจี๊ด" เปิดใจรื้อฟื้นความหลัง นับตั้งแต่หย่าร้างกับสามีชาวญี่ปุ่น ตนไม่มีทายาท ทรัพย์สมบัติที่เคยมี บ้าน 2 หลังในกรุงเทพ เคยทำงานมีรายได้สูงสุดเดือนละ 2 แสนบาท ทรัพย์สินมากมาย 20 กว่าล้าน
ทว่าเมื่อพ่อแม่เสียชีวิตหมด ถูกญาติพี่น้องทอดทิ้ง และมาเกิดอาการป่วยหนักทั้งโรคกระดูกรุน กระดูกคอทับไขสันหลัง เมื่อหลายปีก่อน หมดกับการรักษาตัว ไม่มีงานทำ ญาติพี่น้องไม่เลี้ยงดู บ้านถูกยึดไปหมด จนในที่สุดไม่เหลือทรัพย์สินใดๆติดตัว ไม่มีที่อยู่ใดๆ จนต้องมาอาศัยเพื่อนสนิท พักรักษาตัวอยู่ที่กลางท้องนา ที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยไม่มีสิ่งใดตอบแทนบุญคุณใดๆให้แก่เพื่อนและเจ้าของบ้านเลย
ป้าจี๊ด กล่าวอีกว่า ตนไม่กล้าจะเอ่ยปากไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ หรือใครๆ แต่เนื่องด้วย อาการป่วยหลายโรครุมเร้าในปัจจุบัน ที่มีอาการเกี่ยวกับทางสมอง และรู้สึกลำบากใจที่ต้องมาอาศัยเพื่อนอยู่เป็นภาระให้ข้าวให้น้ำ โดยที่ตนไม่มีญาติพี่น้องมาเหลียวแลแม้แต่คนเดียว จนล่าสุดบังเอิญได้ติดต่อกับสื่อนักข่าวเก่ารุ่นน้องที่เคยร่วมงานกันมา จึงทำให้บรรดาอดีตแชมป์โลกเหล่านี้ได้ทราบเรื่อง และเห็นใจ แวะมาเยี่ยม จึงรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ และขอขอบคุณในความเมตตามา ณ โอกาสนี้ด้วย
ด้าน "เสี่ยระ" เขาทราย แกแล็คซี่ รื้อฟื้นอดีตว่า ตอนไปป้องกันแชมป์ที่ญี่ปุ่น ตนก็ได้พี่จี๊ดนี่แหละ ที่ช่วยประสานงานเป็นธุระช่วยเหลือในทุกอย่าง ตลอดเวลาเก็บตัวก่อนขึ้นชก ซึ่งหากใครไม่เคยไปต่างประเทศในสภาพแบบนี้ ย่อมจะไม่เข้าใจ ว่ายากลำบากแค่ไหน แต่ตนก็ได้พี่จี๊ดนี่แหละที่ช่วยดูแลในทุกๆเรื่อง
ขณะที่ "ครูหนึ่ง" ฉัตรชัย กล่าวว่า เมื่อพี่นักข่าวโทรมาหา แจ้งเรื่องนี้ให้ทราบว่า ยังจำพี่จี๊ดได้หรือไม่ ตนตอบได้ทันทีเลยว่า จำได้แม่น เพราะก่อนจะกลายมาเป็นแชมป์โลกได้ในครั้งนั้น มีการเจรจาต่อรองกันยุ่งยากหลายขั้นตอนกว่าทางญี่ปุ่นจะยอมตามเงื่อนไขของเสี่ยเน้า สุดท้ายผมจึงได้ไปชิงแชมป์โลก พบกับ ยูริ ภาค 2 และได้พี่จี๊ดคือล่ามคนนี้ ที่ช่วยเหลือ จนได้เป็นแชมป์โลก
หลังจากนั้นทั้ง เขาทราย และ ฉัตรชัย ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ นางวรรณภา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ในการดำรงชีวิตเพื่อต่อสู้ในช่วงวิกฤตยามนี้ต่อไป
ผู้มีจิตเมตตาช่วยเหลือ สามารถ บริจาคได้โดยตรง ไปยัง
ธ.ไทยพาณิชย์ เลขบัญชี 790-452-9019 ธนภัทร (ชื่อเดิม วรรณภา) รุ่งโรจน์
